มีผู้หญิง คนหนึ่งประสบอุบัติเหตุ

ทำให้ต้องตาบอดทั้งสองข้าง

และเธอก็ทุกข์ทรมานกับการสูญเสียการมองเห็น

แต่สามีเธอก็พยายาม ปลอบใจ และให้กำลังใจเธอตลอด

พยายามสอนให้เธอใช้ประสาทสัมผัสให้มากขึ้น

ที่ทำงานของเธอกับสามีอยู่คนละทาง

แต่เขาก็ขับรถไปส่ง และไปรับอยู่เสมอ

จนวันหนึ่ง สามีเธอรู้สึกเหน็ดเหนื่อยมาก

เขาจึงพูดกับเธอว่าให้เธอลองพยายามขึ้นรถเมล์ไปทำงานเอง

โดยที่เขาไม่ต้องไปรับไปส่งได้ใหม

นาทีนั้น เธอรู้สึกเหมือนโดดเดี่ยว และน้อยใจสามีเธอ

แต่เธอก็พยายามทำตามที่เขาขอ

เธอพยายามขึ้นรถเมล์เอง พยายามไปทำงานด้วยตัวเอง

จนในที่สุดเธอก็สามารถทำได้

วันหนึ่งก่อนที่เธอจะลงรถไปทำงานตามปกติ

คนขับรถเมล์ก็เข้ามาจับแขนเธอและพูดกับเธอว่า

ผมช่างอิจฉาคุณผู้หญิงจริงๆครับ

เธอก็เลยถามว่า อิจฉาเธอเรื่องอะไร

คนขับรถเมล์ก็เลยบอกว่า

สามเดือนที่ผ่านมา

ผมจะเห็นสุภาพบุรุษคนหนึ่งเขาจะขึ้นรถเมล์ตอนเช้า

มานั่งตรงเบาะหลังคุณ เฝ้ามองดูคุณด้วยความห่วงใย

และ............ ตามคุณลงรถไป

และ............เฝ้าดูคุณเดินเข้าไปที่ทำงานอย่างห่วงใย

และ............ตอนเย็นทุกๆเย็นเขาก็จะมาเฝ้ารอดูคุณขึ้นรถ

และ............คอยดูคุณจนคุณลงรถ

พอเธอได้ยินดังนั้น เธอก็น้ำตาไหลด้วยความตื้นตัน

เพราะตลอดเวลาที่ผ่านมาเขาไม่เคยทิ้งเธอไปไหน

เขายังอยู่ดูแลเธออย่างใกล้ชิด

เขาเหนื่อยยิ่งกว่าตอนที่เขาต้องคอยมารับมาส่งเธอซะอีก 


ที่มา :จากในอินเตอร์เนต เนื่องจากทางผม KeroNB76 ชื่นชอบแล้วนำมาเก็บไว้นานแล้ว เห็นมีประโยชน์จึงนำมาเผยแพร่ ผมเองไม่สามารถจำชื่อเจ้าของบทความนี้ ถ้าท่านใดเป็นเจ้าของบทความนี้ ผม KeroNB76 ขออนุญาติ นะครับ

This is my love

บางครั้ง ความรักก็เข้ามาหาเรา เพื่อให้เราเรียนรู้ มิใช่ให้เราครอบครอง...ไม่ผิด หากจะรักคนมีเจ้าของแต่หากจะผิดหากเข้าไปทำหน้าที่ซ้ำซ้อนของอีกคน...หน้าที่ของความรัก คือ การเดินไปมอบความรักและยืนเฉยๆเพื่อรับมัน ไม่ใช่ดิ้นรนเพื่อให้ได้มา...ในห้วงรัก การถูกรักมันสุขใจ การมอบความรักมันอิ่มเอมและเมื่อได้รับการปฏิเสธมันทรมาน...ความรัก จะเกิดขึ้นเมื่อการถ่ายเทพลังอันอ่อนโยนของคนสองคน...ความรัก มิใช่การเข้าไปเป็นชีวิตเขาแต่คือการเข้าไปอยู่ข้างๆชีวิตเขา...คนบางคนเหมาะที่เกิดมาเพื่อให้เรารักแต่ไม่เหมาะที่จะร่วมชีวิตด้วย...ความรัก ระยะแรกทำให้ร่างกายหลั่งสารกระตือรือร้นทำให้มนุษย์ทำทุกอย่างให้ได้มาซึ่ง ความรัก...แฟน ก็คือเพื่อนคู่คิดที่ก้าวไปด้วยกันในวันข้างหน้า...ในวันที่ความรักคงที่ สารกระชุ่มกระชวยงดทำงานสิ่งเดียวที่จะทำให้อยู่ด้วยกันได้ตลอดไปคือ ความเข้าใจล้วนๆ...ความห่างไกลมันทรมาน เวลาเจอกันจึงหอมหวานและเป็นความทรงจำที่เก็บไปนั่ง เพ้อฝันได้ในวันจาก...บุคคลที่ไม่พึงประสงค์สำหรับทุกคู่รักมักจะเดินทางมา โดยไม่มีปี่มีขลุ่ย...ผู้ชายแสดงความรักด้วยการกระทำขณะที่ผู้หญิงอยากรู้ ว่า รักจากคำพูดความรัก ไม่ต้องการ แค่วันเดียวความรัก ไม่ต้องเกี่ยว กับวันไหนความรัก ไม่ต้องมี เวลาใดความรัก ไม่ต้องใช้ให้ใครชี้ความรัก ไม่ต้องมี ข้อวิจารณ์ความรัก ไม่ต้องการ การกดขี่ความรัก ไม่ต้องให้ ใครตราตีความรัก ไม่ต้องมี เส้นพรมแดนความรัก ไม่ต้องรอ ข้อพิสูจน์ความรัก ไม่ต้องพูด ตามแบบแผนความรัก ไม่ต้องการ การตอบแทนความรัก ไม่ต้องแค่น หัวใจคนความรัก ไม่ต้องการ การเป็นต่อความรัก ไม่ต้องรอ ขอเหตุผลความรัก ไม่ต้องย้ำ ความมีจนความรัก ไม่ต้องทน ที่จะรัก
ที่มา :จากในอินเตอร์เนต เนื่องจากทางผม KeroNB76 ชื่นชอบแล้วนำมาเก็บไว้นานแล้ว เห็นมีประโยชน์จึงนำมาเผยแพร่ ผมเองไม่สามารถจำชื่อเจ้าของบทความนี้ ถ้าท่านใดเป็นเจ้าของบทความนี้ ผม KeroNB76 ขออนุญาติ นะครับ

โรคชนิดต่างๆเมื่อกำลังอินเลิฟ

“ความรักทำให้คนตาบอด” เป็นหนึ่งในคำเปรียบเปรยสำหรับคนมีรัก แสดงถึงอาการไม่ยอมรับความจริง เห็นผิดเป็นชอบ สมองส่วนของเหตุผลถูกทำลายลง ด้วยอารมณ์ อันเป็นที่มาของความบกพร่องในระบบการตัดสินใจ ถ้าสาเหตุของโรคเป็นคนดี รักเดียวใจเดียว ซื่อสัตย์ อาการเหล่านี้จะไม่ลุกลามและหายวันหายคืน ถือว่าเป็นโชคดีของผู้ป่วย แต่ถ้าสาเหตุของโรคเป็นคนนิสัยไม่ดี เจ้าชู้ อาการของโรคมีแต่ทรุดกับทรุด เกิดความทรมานแก่ผู้ป่วย นอกจากความรักทำให้คนตาบอดแล้ว ยังมีโรคอีกมากมายที่เกี่ยวข้องกับความรัก ทำให้คนเราทำพฤติกรรมหรือการกระทำต่างๆที่คนธรรมดาไม่ได้อยู่ในภาวะอินเลิฟ ทำกันได้ จนเป็นสาเหตุของโรคต่างๆ มีโรคอะไรบ้างที่เกิดจากความรัก แล้วคุณผู้อ่านเคยเป็นโรคเหล่านี้กันบ้างรึเปล่า

โรคเข้าข้างตัวเอง

           สาเหตุของโรคเกิดจากมีเพศตรงข้ามเข้ามาใกล้ หรือเข้ามารุกรานในพื้นที่ส่วนตัวที่เรียกว่าหัวใจ ทำให้เกิดอาการหลงผิด คิดว่าอีกฝ่ายมีใจให้ ไม่ว่าอีกฝ่ายจะพูดจะทำอะไร มักคิดว่าเค้ามาชอบเราจีบเรา ผู้ป่วยที่มีหน้าตาดีเป็นทุนเดิมค่อนข้างเป็นโรคนี้มากกว่าผู้ป่วยหน้าตา ปานกลางถึงแย่
เนื่องจากเข้าใจว่าตนหน้าตาดีเป็นที่ต้องการของตลาด ทำให้เกิดความเข้าใจผิด จนเป็นโรคนี้ได้ ในทางกลับกันถ้าสาเหตุของโรคเป็นคนหล่อหรือสวย ยิ่งทำให้ผู้ป่วยมีอาการหวั่น ไหวได้ง่ายกว่าปรกติ
อีกกลุ่มบุคคลที่เสี่ยงเป็นโรคนี้ได้คือ พวกอ่อนต่อโลก มองโลกในแง่ดี เลยเหมาหรือสรุปว่าเค้ามาจีบตน
วิธีป้องกันคือ วางใจเป็นกลาง ดูพฤติกรรมอีกฝ่ายให้แน่นอนว่าเค้าทำดีกับเราแค่คนเดียวหรือ
เหวี่ยงแหไปทั่ว หรือเป็นเพราะอีกฝ่ายเป็นคนอัธยาศัยดี มนุษยสัมพันธ์ดีต่อทุกคน วิธีรักษา ให้หายขาดคือการถามตรงๆกับอีกฝ่ายว่าคิดยังไงกับตน เป็นวิธีที่ทำให้หายจากโรคเข้าข้างตัวเองได้ แต่ผลของคำตอบอาจนำมาซึ่งโรคแทรกซ้อนอย่างอื่นได้ เช่นโรคอกหัก

โรคพิการซ้ำซ้อน

           เกิดกับผู้ที่ได้รับไวรัสความรักใหม่ๆ โดยเกิดกับฝ่ายหญิงมากกว่าฝ่ายชาย อาการคือไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ คิดเองไม่เป็น ตัดสินใจไม่ได้ ต้องให้อีกฝ่ายให้ความช่วยเหลือตลอดเวลา อาการของโรคจะรุนแรงมากน้อยขึ้นอยู่กับคู่กรณีของอีกฝ่ายว่าเป็นคนแบบไหน ถ้าเจอคนที่ชอบดูแลเทคแคร์
เป็นผู้นำมากๆจะถูกใจกับคนที่เป็นโรคนี้เนื่องจาก สามารถแสดงบทบาทของการเป็นเจ้าเข้าเจ้าของได้อย่างเต็มที่ แต่สำหรับคู่กรณีที่ขี้รำคาญหรือชอบคนที่ดูแลตัวเองได้อาจไม่ค่อยชอบใจคนที่ เป็นโรคนี้นัก ดังนั้นผู้ป่วยควรสังเกตพฤติกรรมของฝ่ายที่มาจีบว่าชอบแบบไหนมากกว่ากัน เพราะถ้าคุณเป็นโรคนี้
อย่างต่อเนื่อง อาจเป็นสาเหตุของการถูกทิ้งได้เช่นกัน

โรคสมาธิสั้น

          เป็นอีกหนึ่งโรคที่เกิดกับคนที่ได้รับเชื้อไวรัสที่เรียกว่าความรัก อาการคือจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว คิดถึงอีกฝ่ายตลอดเวลา ว่าทำอะไร อยู่กับใคร อยู่ที่ไหน คิดถึงเราบ้างรึเปล่า ทำให้สูญเสียสมาธิในการเรียนหรือการทำงาน มีผลทำให้ผลการเรียนแย่ลง ประสิทธิภาพการทำงานลดลง ข้อดีเพียงเล็กน้อย
ของโรคนี้ในกรณีที่เรียนหรือทำงานที่เดียวกันทำให้รู้สึก อยากมาเรียนหรืออยากมาทำงาน ส่วนมาแล้วจะตั้งใจทำงานรึเปล่านั่นก็เป็นอีกเรื่อง สำหรับผู้ป่วยที่เสพย์ติด Social Network อย่าง Facebook หรือถ้าติดมือถือ Black Berry จิตใจของผู้ป่วยจะจดจ่อกับการอัพเดทสเตตัสของอีกฝ่ายหรือคอยแต่จะเมนท์หากัน ทั้งวัน วิธีรักษาควรรู้จักแยกแยะ จัดสรรเวลาให้เป็น มิฉะนั้นจะมีผลเสียต่อการเรียนและการทำงานได้

โรควิตกกังวล วิตกจริต

         พบ ได้ในกลุ่มบุคคลที่ไวรัสความรักได้ซึมเข้าสู่กระแสเลือด อาการของผู้ป่วยขึ้นอยู่กับพื้นเพของผู้ป่วยแต่ละคน โดยต้องเช็คประวัติย้อนหลังของผู้ป่วยว่ามีอดีตกับแฟนเก่าอย่างไรบ้าง ถ้าเคยมีแฟนเก่าเป็นคนเจ้าชู้มาก่อน โรควิตกกังวลวิตกจริตนี้สามารถเกิดขึ้นได้กับแฟนใหม่ ด้วยความหวาดระแวงจากอดีตของตนเป็นทุนเดิม กลุ่มคนที่ขาดความมั่นใจในตนเองเป็นอีกกลุ่มเสี่ยงที่จะเป็นโรคนี้ได้ เพราะเกิดจากความไม่มั่นใจในตนเองทำให้วิตกกังวลว่าอีกฝ่ายอาจนอกใจ คิดตีจากตลอดเวลาเพราะตนไม่ดีพอ วิธีรักษา ที่ดีที่สุดคือรู้จักการใช้ยา “ปล่อยวาง” ซึ่งยาปล่อยวางนี้นิยมใช้เป็นที่แพร่หลายในการรักษาโรคหลายๆโรคที่เกี่ยว ข้องกับจิตใจ เมื่อรู้จักปล่อยวางอาการวิตกจริตหรือกังวลมากไปจะค่อยๆดีขึ้น

โรคนอนไม่หลับ

         โรคนี้เป็นโรคต่อเนื่องที่มีผลมาจากโรควิตกกังวล มักเกิดกับฝ่ายหญิงมากกว่าฝ่ายชาย ฝ่ายหญิงนั้นอาจอยู่ในฐานะของแฟนหรือถึงขั้นแต่งงานแต่งการกันไปแล้ว อาการนอนไม่หลับนั้นเกิดขึ้นเมื่อแฟนหรือสามีของตนกลับบ้านไม่ตรงเวลา ปิดมือถือ หนีเที่ยว หรือเที่ยวจนติดเป็นนิสัย โดยมีสาเหตุจาก
ความเป็นห่วง เช่นเมื่อคนรักตน “เมาแล้วขับ”จะเกิดอุบัติเหตุรึเปล่า หรือเกิดจากความหึงหวงว่าอีกฝ่ายอาจนอกลู่นอกทาง วิธีป้องกันคือการตามไปคุม พูดง่ายๆว่าไปเที่ยวด้วยกันเลยจะได้ไม่ต้องห่วง หรือในกรณีที่ไม่ชอบเที่ยวอาจบังคับอีกฝ่ายไม่ให้ขับรถไป โดยให้ใช้บริการของแท็กซี่แทน เป็นการลด
ความกังวลว่าอีกฝ่ายอาจมีอันตรายจากการขับรถ สำหรับบางรายที่เฉยชาหรือว่าชาชินกับพฤติกรรมของอีกฝ่าย โรคนอนไม่หลับนี้จะหายไปเองโดยอัตโนมัติ เรียกว่า เกิดอาการช่างมันฉันไม่แคร์ ผู้ป่วยจึงสามารถกลับมานอนหลับเป็นปรกติดั่งเดิม

โรคหลงรักคนมีเจ้าของ

         เป็นโรคที่ค่อนข้างอันตรายสำหรับคนที่เป็น การรักษาค่อนข้างยากขึ้นอยู่กับสถานะของสาหตุของโรคว่าเป็นแค่แฟนหรือแต่งงานเป็นเรื่องเป็นราว การไปหลงรักคนที่แต่งงานแล้ว มีแต่เสียกับเสีย นอกจากเจ้าตัวจะทุกข์ใจแล้ว ยังโดนสังคมประณามได้อีก ถ้าอีกฝ่ายไม่เล่นด้วยอาการจะหายเร็วกว่าปรกติ แต่ถ้าอีกฝ่ายดันสานสัมพันธ์กับเจ้าตัวด้วย อาจทำให้อาการบานปลายเป็นปัญหาครอบครัวได้
ฃวิธีป้องกันคือสืบให้แน่ก่อนว่าอีกฝ่ายมีเจ้าของเป็นตัวเป็นตนรึยัง ในกรณีที่มีการปกปิดอย่างมิดชิดหรือเนียนจนไม่สามารถจับได้ เมื่อรู้ตัวอีกทีก็ถลำลึกจนไม่สามารถถอนตัวได้ วิธีรักษา มีเพียงการใช้ยา”ตัดใจ”อย่างเดียว ผลของการใช้ยาขึ้นอยู่กับความร่วมมือของผู้ป่วยด้วย หรือการให้อีกฝ่ายเคลียร์พันธะของตัวเองให้หมด ก่อนกลับมาคบกันอีกครั้ง

โรคความจำเสื่อม

         พบได้ในผู้ป่วยที่ติดเชื้อความรักเข้าไปในอย่างรุนแรง ยากที่จะรักษา อาการของโรคคือ ไม่ว่าอีกฝ่ายทำผิดซ้ำซากจนเป็นสาเหตุของการทะเลาะกัน รุนแรง หรือแม้ถึงขั้นเลิกรากันไป แต่เมื่อมาง้อขอคืนดีกลับยอมยกโทษให้ แล้วกลับไปคบกันเหมือนเดิม เรื่องจึงวนเวียนเป็นเรื่องราวเดิมๆ ปัญหาเดิมๆจน
ทำให้เจ้าตัวต้องเสียน้ำตาหรือบอบช้ำเพราะไวรัสความรักแบบไม่ หายขาด สมองของผู้ป่วยมักสั่งให้ลืมเรื่องทุกอย่างๆ ให้อภัยอีก ฝ่ายจนหมดสิ้น การเป็นโรคความจำเสื่อมมีทั้งข้อดีข้อเสีย ถ้าอีกฝ่ายกลับตัวได้ สามารถทำให้ผู้ป่วยกลับมารักกันดังเดิมอยู่กันอย่างยืดยาว แต่ถ้าอีกฝ่ายยังคงพฤติกรรมแย่ๆไว้ครบ
ทุกระเบียบนิ้ว ผู้ป่วยคงต้องทนทุกข์ทรมานกับโรคนี้ไปเรื่อยๆโดยที่ไม่มีทางรักษา

โรคอกหักรักเป็นพิษ

          เป็นโรคยอดฮิตที่เรียกได้ว่าถ้าใครมีความรักมีความเสี่ยงสูงที่จะเป็นโรคนี้ โดยความรุนแรงของ โรคนี้ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัยของคนที่เป็นโรคเช่น อายุ ระยะเวลาที่คบกัน สาเหตุของอาการอกหัก ฝ่ายบอกเลิกหรือฝ่ายถูกเลิก ยังรักอยู่หรือหมดรักแล้ว ซึ่งสามปัจจัยที่กล่าวมาเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกันทั้งหมด อายุมากหรือน้อยเกี่ยวข้องกับสภาวะการยับยั่งช่างใจหลังจากการอกหัก ถ้าเป็นรักแรกที่มีความคาดหวัง อาการของผู้ป่วยค่อนข้างรุนแรง ระยะเวลาที่คบกัน มีผลอยู่สองแบบคือ รักมากยิ่งช้ำมาก เหมือนกับเวลาที่ผ่านมาไม่มีผลต่อการตัดสินใจของอีกฝ่ายที่จะบอกเลิก แต่อีกกรณีที่พบคือ ผู้ป่วยฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งหมดรักอีกฝ่าย อาการของฝ่ายที่หมดรักไม่ รุนแรงเท่ากับฝ่ายที่ยังรักอยู่ สาเหตุของการเลิกรา การเข้ากันไม่ได้ หรือเกิดจากบุคคลที่สามเข้ามาแทรกแซง อาการของผู้ป่วยที่ตรวจพบคือ ร้องไห้ เสียใจ ไม่เป็นอันกินอันนอน น้ำหนักขึ้นหรือลงอย่างรวดเร็ว โรคอกหักถือเป็นโรคร้ายแรงที่สุดที่มีสาเหตุจากความรัก

          คุณผู้อ่านที่เคยมีความรักมาคงคุ้ยเคยกับโรคหรืออาการของโรคเหล่านี้มาแล้ว ไม่มากก็น้อย แต่ใช่ว่าความรักจะทำให้เราเป็นโรคได้อย่างเดียว สำหรับคนที่ได้เจอกับความรักที่สมหวัง คนรักที่ดี สิ่งที่คุณได้พบแน่นอนคือความสุขของการมีคนให้รัก และมีคนที่รักเรา ไม่มีใครล่วงรู้อนาคตได้ว่าความรัก
ของคนแต่ละคนจะสิ้นสุดเมื่อไร ถ้ามัวแต่กลัวคงไม่มีโอกาสได้ลิ้มรสความสุขของ การมีรักได้ แต่เมื่อรักแล้วต่อให้เกิดอะไรขึ้น ขอให้คิดว่าเป็นความสมัครใจของเราเอง สิ่งที่ทำได้คือ ทำให้ทุกวันเป็นวันที่ดีที่สุดไงครับ

ที่มา :จากในอินเตอร์เนต เนื่องจากทางผม KeroNB76 ชื่นชอบแล้วนำมาเก็บไว้นานแล้ว เห็นมีประโยชน์จึงนำมาเผยแพร่ ผมเองไม่สามารถจำชื่อเจ้าของบทความนี้ ถ้าท่านใดเป็นเจ้าของบทความนี้ ผม KeroNB76 ขออนุญาติ นะครับ

สรุปรายงานฝึกวิชาชีพ ที่ สถาบันจิตเวชศาสตร์สมเด็จเจ้าพระยา เดือนสิงหาคม

สัปดาห์ที่ 9 วันที่ 4 สิงหาคม - 8 สิงหาคม
- ได้ทำการลงระบบปฎิบัติงาน O/S และโปรแกรมต่างๆลงใน Notebook ตามที่ลูกค้าต้องการ
- ได้ทำการตรวจสอบสัญญาณ Wireless อีกครั้งที่ตึก 84 ปี และพร้อมวางแผนติดตั้ง
Wireless port จำนวน 2 จุด พร้อมตรวจเช็คสัญญาณ
- ได้ทำการแก้ไขปัญหาการอ่านไฟล์ PDF ไม่ได้
สัปดาห์ที่ 10 วันที่ 11 สิงหาคม - 15 สิงหาคม
- ได้ทำการเพิ่ม USER เข้าไปในระบบปฎิบัติงาน MIS V.2.1
- ได้ทำการตรวจสอบและแก้ไขปัญหาของคอมฯที่ทำให้การทำงานไม่มีประสิทธิภาพตามที่
มีหน่วยงานต่างๆได้ทำการขอรับการบริการ
- ได้ทำการติดตั้งสัญญาณ Wireless และ Switch Hub ที่ห้องประชุม อาคาร 100 ปี
สัปดาห์ที่ 11 วันที่ 18 สิงหาคม - 22 สิงหาคม
- ได้ปฎิบัติงานด้วยการเป็นผู้ช่วยวิทยากรในการทัศนศึกษาของนักเรียนโรงเรียน
กุลสิริเทคโนโลยี และบริหารธุรกิจ
-ได้ทำการ Add IP เครื่องคอมพิวเตอร์ภายในสถาบันให้เข้าระบบปฎิบัติงาน MIS
ซึ่งได้ทำการปรับปรุง ใหม่
- ได้ทำการเปลี่ยน Icon ของระบบปฎิบัติงาน MIS ให้หน่วยงานต่างๆภายในสถาบันฯ
เนื่องจาก จะได้ง่ายต่อการปฎิบัติงานยิ่งขึ้น
สัปดาห์ที่ 12 วันที่ 25 สิงหาคม - 29 สิงหาคม
(เป็นสัปดาห์สุดท้ายของการฝึกงานวิชาชีพ)
- ได้ทำการตรวจสอบ และทดสอบการทำงานของคอมพิวเตอร์ชุดใหม่ ที่ทางสถาบัน
ได้จัดสรรมาเพื่อสะดวกแก่การทำงานมากยิ่งขึ้น
- ได้ทำการตรวจสอบ IP Address ของคอมพิวเตอร์ทุกเครื่องภายในสถาบันฯ
เพื่อตรวจสอบและบันทึก เข้าไปในระบบปฎิบัติงาน MIS ที่ได้ปรับปรุงใหม่
- ได้ทำการจัดเตรียมเอกสารแจ้ง USER ใหม่ และแจ้งการอบรมบุคลากรเรื่อง
ระบบปฎิบัติงาน MIS ให้กับเจ้าหน้าที่ทุกคนภายในสถาบัน
- ได้ทำการติดตั้งสาย LAN ไปที่ห้องประชุม

สรุปรายงานฝึกวิชาชีพ ที่ สถาบันจิตเวชศาสตร์สมเด็จเจ้าพระยา เดือนกรกฎาคม

สัปดาห์ที่ 4 วันที่ 1 กรกฎาคม - 4 กรกฎาคม
- ได้ทำการ ติดตั้งโปรแกรม Dreamweaver ให้กับหน่วยงานที่ได้รับการอบรม
- ได้ทำการ ติดตั้ง Driver Printer แก่หน่วยงานที่ได้แจ้งซ่อมมา
- ได้ทำการตรวจสอบ User ของผู้ที่ใช้ระบบปฎิบัติงาน MIS
สัปดาห์ที่ 5 วันที่ 7 กรกฎาคม - 11 กรกฎาคม
- ได้ทำการ Format และลงระบบปฎิบัติการ O/S และโปรแกรมสำเร็จรูปต่างๆ ชองลูกค้า
ซึ่งได้นำ Notebook มารับการบริการ
- ได้ส่งมอบและติดตั้งเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ได้รับการบริการ
- ได้ร่วมเข้าประชุมแผนงานการบริการของศูนย์คอมพิวเตอร์
สัปดาห์ที่ 6 วันที่ 14 กรกฎาคม - 16 กรกฎาคม
- ตรวจสอบและแก้ไขปัญหาที่เกี่ยวข้องกับคอมพิวเตอร์ตามหน่วยงานต่างๆที่แจ้งการขอรับการบริการ
สัปดาห์ที่ 7 วันที่ 21 กรกฎาคม - 25 กรกฎาคม
- ได้ทำการตรวจสอบสัญญาณ Wireless ที่ตึกหอพักพยาบาล 84 ปี ว่ามีจุดไหนอับสัญญาณบ้าง
- ตรวจสอบและแก้ไขปัญหาที่เกี่ยวข้องกับคอมพิวเตอร์ตามหน่วยงานต่างๆที่แจ้งการขอรับการบริการ
- ตรวจรับ Notebook ที่ผู้ใช้บริการ ได้นำมาคืนให้กับหน่วยงานคอมพิวเตอร์ได้ทำการตรวจสอบและจัดเก็บ
เพื่อจะได้นำไปใช้ในงานของหน่วยงานต่างๆที่ได้ทำการขอใช้ Notebook ต่อๆไป
- ได้ทำการติดตั้งและควบคุมการใช้ Notebook ที่ได้นำไปใช้ในการประชุม
สัปดาห์ที่ 8 วันที่ 28 กรกฎาคม - 1 สิงหาคม
- ได้ทำความสะอาดและจัดเก็บอุปกรณ์พร้อมทั้งตรวจสอบอุปรกรณ์ว่าชึ้นใดยังสามารถปฎิบัติงานได้
- ได้ทำการตรวจสอบและแก้ไขปัญหา Login เข้าระบบปฎิบัติงาน MIS ไม่ได้
- ได้ทำการติดตั้งและควบคุมการใช้งานของ Notebook ที่ได้ขอรับการบริการไปที่การประชุมภายในสถาบัน

สรุปรายงานฝึกวิชาชีพ ที่ สถาบันจิตเวชศาสตร์สมเด็จเจ้าพระยา เดือนมิถุนายน

สัปดาห์ที่ 1 วันที่ 10 มิถุนายน-13 มิถุนายน
- ได้ทำความรู้จักกับผู้ร่วมงานและระบบการทำงานของหน่วยงานที่จะปฎิบัติงานด้วย
- เรียนรู้ Hardware / Software / Network ที่มีความเกี่ยวข้องกับหน่วยงาน
- ได้ฝึกการ Format เครื่อง คอมฯ และลงโปรแกรมต่างๆ

สัปดาห์ที่ 2 วันที่ 16 มิถุนายน -20 มิถุนายน
- ทางแผนกได้มีการจัดอบรมบุคลากรเรื่องการใช้โปรแกรม MS Excel
สัปดาห์ที่ 3 วันที่ 23 มิถุนายน -27 มิถุนายน
- ทางแผนกได้จัดอบรมบุคลากรในหน่วยงานเรื่อง "การผลิตสื่อ E-Learning"
- ได้ลง ระบบปฎิบัติการ O/S และ โปรแกรมสำเร็จรูปต่างๆ ที่ใช้ในหน่วยงาน




การเขียนจดหมายเวียน

จดหมายเวียน ก็คือ รูปแบบจดหมายชนิดหนึ่ง โดยที่เนื้อหาภายในจดหมายจะคงลักษณะเดิม จะแตกต่างก็แค่ชื่อของเจ้าของจดหมายนั่นเอง ถ้ายังนึกไม่ออก ก็ให้นึกถึงจดหมายลูกโซ่ ที่มีเนื้อหาเดิมๆ แต่เปลี่ยนชื่อผู้รับ

วิธีการทำจดหมายเวียน

1. เปิดโปรแกรม Microsoft Word แล้วก็ พิมพ์ตัวจดหมายขึ้นมาก่อน

2. จากนั้น ก็ไปที่เมนู เครื่องมือ > จดหมายและเมล > จดหมายเวียน

3. สังเกตว่า จะมีเมนูประหลาดๆ ขึ้นมาทางด้านขวามือ แล้วก็หาคำว่า เลือกชนิดของเอกสาร ในที่นี้ เราจะทำตัวจดหมายคะ

4. จากนั้น จะให้เราเลือกว่า จะใช้เอกสารเริ่มต้นที่ไหน ก็เลือกใช้เอกสารปัจจุบัน

5. ทีนี้ก็มาถึงชื่อผู้รับจดหมายแล้ว ถ้าเรามีข้อมูล เราสามารถดึงข้อมูลมาใช้ได้เลย แต่ตอนนี้เราสมมติว่า ยังไม่มีชื่อใครเลย ก็ให้เลือก พิมพ์รายการใหม่ > สร้าง

6. สังเกตว่า จะมีตารางให้กรอกข้อมูลของผู้รับจดหมาย เราก็กรอกไป เมื่อกรอกเสร็จ ให้คลิกที่ปุ่ม ปิด จากนั้น Word จะถามว่า ต้องการเซฟไว้ที่ไหน

7. คราวนี้ จะขึ้นหน้าต่าง ผู้รับจดหมายเวียน ทีนี้ เราสามารถเลือกชื่อใครก็ได้ และเอามาแทรกในภายหลัง


เพียงเท่านี้เราก็สามารถทำจดหมายเวียนได้ด้วยตนเองแล้วนะครับ



ภาพตัวอย่างการทำจดหมายเวียน